วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คุณธรรมและจริยธรรม

คุณธรรม จริยธรรมในการทำงาน
          คุณธรรม  หมายถึง  สภาพคุณงานมความดีและความถูกต้องในการแสดงออกทั้งกาย  วาจา  และใจของแต่ละบุคคลซึ่งยึดมั่นไว้เป็นหลักในการประพฤติปฏิบัติจนเกิดเป็นนิสัย
          จริยธรรม  หมายถึง  กฎเกณฑ์ที่เป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนในสิ่งที่ดีงาม  เหมาะสม  และเป็นที่นิยมชมชอบหรือยอมรับจากสังคม  เพื่อความสันติสุขแห่งตนเองและความสงบเรียบร้อยของสังคม
          ความสำคัญของคุณธรรมจริยธรรม
ช่วยให้ชีวิตดำเนินไปด้วยความราบรื่นและสงบ
ช่วยให้มีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลา
ช่วยสร้างความมีระเบียบวินัยให้แก่บุคคลในชาติ
ช่วยควบคุมไม่ให้คนชั่วมีจำนวนมากขึ้น
ช่วยให้มนุษย์นำความรู้และประสบการณ์มาสร้างสรรค์แต่สิ่งที่มีคุณค่า
ช่วยควบคุมความเจริญทางด้านวัตถุและจิตใจของคนให้เจิญไปพร้อม ๆ กัน
           คุณธรรมในการทำงาน
           คุณธรรมในการทำงาน  หมายถึง  ลักษณะนิสัยที่ดีที่ควรประพฤติปฏิบัติในการประกอบอาชีพคุณธรรมสำคัญที่ช่วยให้การทำงานประสบความสำเร็จมีดังนี้
ความมีสติสัมปชัญญะ  หมายถึง  การควบคุมตนเองให้พร้อม  มีสภาพตื่นตัวฉับไวในการรับรู้ทางประสาทสัมผัส  การใช้ปัญญาและเหตุผลในการตัดสินใจที่จะประพฤติปฏิบัติในเรื่องต่างๆ ได้อย่างรอบคอบ  เหมาะสม และถูกต้อง
ความซื่อสัตย์สุจริต  หมายถึง  การประพฤติปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมาทั้งกาย  วาจา  และใจ  ไม่คิดคดทรยศ  ไม่คดโกง  และไม่หลอกลวงใคร
ความขยันหมั่นเพียร  หมายถึง  ความพยายามในการทำงานหรือหน้าที่ของตนเองอย่างแข็งขัน ด้วยความมุ่งมั่นเอาใจใส่อย่างจริงจังพยายามทำเรื่อยไปจนกว่างานจะสำเร็จ
ความมีระเบียบวินัย  หมายถึง  แบบแผนที่วางไว้เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติและดำเนินการให้ถูกลำดับ  ถูกที่  มีความเรียบร้อย  ถูกต้องเหมาะสมกับจรรยาบรรณ  ข้อบังคับ  ข้อตกลง  กฎหมาย  และศีลธรรม
ความรับผิดชอบ  หมายถึง  ความเอาใจใส่มุ่งมั่นตั้งใจต่องาน  หน้าที่  ด้วยความผูกพัน  ความพากเพียร  เพื่อให้งานสำเร็จตามจุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้
ความมีน้ำใจ  คือ  ปรารถนาดีมีไมตรืจิตต้องการช่วยเหลือให้ทุกคนประสบความสุข  และชาวยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์
ความประหยัด  หมายถึง  การรู้จักใช้ รู้จักออม  รู้จักประหยัดเวลาตามความจำเป็น  เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าที่สุด
ความสามัคคี  หมายถึง  การที่ทุกคนมีความพร้อมทั้งกาย  จิตใจ  และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  มีจุดมุ่งหมายที่จะปฏิบัติงานให้ประสบความสำเร็จโดยไม่มีการเกี่ยงงอน
          จริยธรรมในการทำงาน
          จริยธรรมในการทำงาน  หมายถึง  กฎเกณฑ์ที่เป็นแนวทางปกิบัติตนในการประกอบอาชีพที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงาน  เหทาะสม  และยอมรับ
           การทำงานหรือการประกอบอาชีพต่าง ๆ จะเน้นในเรื่องของจริยธรรมที่มีความแตกต่างกันดังนี้
           จริยธรรมในการทำงานทั่วไป
    จริยธรรมที่นำมาซึ่งความสุขความเจริญในการทำงานและการดำรงชีวิต  เรียกว่า  มงคล  38  ประการ    มงคลชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการทำงานมีดังนี้
ชำนาญในวิชาชีพของตน (  มงคลชีวิตข้อที่ 8 ) เป็นการนำความรู้ที่เล่าเรียน  ฝึกฝน  อบรม  มาปฏิบัติให้เกิดความชำนาญจนสามารถยึดเป็นอาชีพได้
ระเบียบวินัย  (  มงคลชีวิตข้อที่ 9 )  การฝึกกาย  วาจาให้อยู่ในระเบียบวินัยที่สังคมหรือสถาบันวางไว้เป็นแบบแผน
กล่าววาจาดี(  มงคลชีวิตข้อที่ 10 )  คือ  วจีสุจริต  4  ประการ  ได้แก่    ความจริง  คำประสานสามัคคี  คำสุภาพ  คำมีประโยชน์
ทำงานไม่คั่งค้างสับสน (  มงคลชีวิตข้อที่ 14 )  ลักษณะการทำงานของคนโดยทั่วไปมี  2  แบบ คือ 
          -  การทำงานคั่งค้างสับสน คือ  ทำงานหยาบยุ่งเหยิง  ทำงานไม่สำเร็จ  
          -  การทำงานไม่คั่งค้าง  คือ การทำงานดีมีระเบียบ  ทำงานเต็มฝีมือ  และทำงานให้เสร็จ


คำอธิบายรายวิชา

........ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี สารสนเทศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น ไมโครซอฟท์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบการสื่อสารข้อมูล ระบบเน็ตเวิร์ค ระบบซอฟท์แวร์ การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ ทักษะการเข้าถึงสารสนเทศ ฐานข้อมูลสารสนเทศ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์และการอ้างอิง ฝึกปฏิบัติการ สามารถใช้คอมพวิเตอร์ขั้นพื้นฐานและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้อย่าง เหมาะสมได้

วัตถุประสงค์ในรายวิชา

........เมื่อผู้เรียนศึกษาเนื้อหาบทเรียนจบแล้วตามหลักสูตรแล้วจะมีพฤติกรรมหรือความสามารถดังนี้
1. อธิบายความหมาย ความสำคัญ และองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศได้
2. อธิบายความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้
3. ยกตัวอย่างเทคโนดลยีสารสนเทศและการสื่อสารในชีวิตจริงได้
4. อธิบายความหมายและความสำคัญของวิธีระบบได้
5. อธิบายความสัมพันธ์ของวิธีระบบกับเทคโนโลยีสารสนเทศได้
6. บอกความหมายและองค์ประสกอบสำคัญๆของคอมพิวเตอร์ได้
7. อธิบายหน้าที่ขององค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ได้

8. บอกประเภทและคุณสมบัติของซอฟท์แวร์แต่ละประเภทได้
9. บอกความหมายและความสำคัญของอินเตอร์เน็ตได้
10. บอกความสัมพันธ์ของเครือขายคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้
11. อธิบายแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายได้

12. อธิบายวิธีประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษาได้
13. ยกตัวอย่างโปรแกรมต่าง ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้
14. สร้างสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนการสอนได้
15. นำเสนอสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งที่เป็นสื่อทั่วไปและสื่อระบบเครือข่ายได้


เนื้อหาบทเรียน

หน่วยการเรียนที่ 1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยการเรียนที่ 2 ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หน่วยการเรียนที่ 3 คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์
หน่วยการเรียนที่ 4 ซอฟต์แวร์
หน่วยการเรียนที่ 5 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยการเรียนที่ 6 อินเตอร์เน็ต
หน่วยการเรียนที่ 7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน
หน่วยการเรียนที่ 8 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงาน

รูปแบบของกระบวนการเรียนการสอน



  • วิธีสอน :  เป็นการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning)
  • เนื้อหาบทเรียน :  เนื้อหาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู
  • เครื่องมือกำกับการเรียนรู้ : ความซื่อสัตย์(integrity)
                 กิจกรรมการเรียนการสอน
    • การบรรยายประกอบสื่อในชั้นเรียนปกติ (traditional classroom)
    • การศึกษาค้นคว้าด้วยสื่อออนไลน์หรือเว็บบล็อก
    • การสรุปและนำเสนอในชั้นเรียนด้วยสื่อ ICT
    • การอภิปรายแสดงความคิดเห็น
    • การสรุปเป็นรายงาน
    • การทดสอบเพื่อวัดและประเมินผล